เมนู

8. สัชฌสูตร


ว่าด้วยฐานะที่พระอรหันต์ไม่ล่วงละเมิด


[212] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ภูเขา
คิชฌกูฏใกล้พระนครราชคฤห์ ครั้งนั้นแล สัชฌปริพาชกเข้าไปเฝ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาคเจ้า
ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่สมควร
ส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ สมัยหนึ่ง ข้าพระองค์และพระผู้มีพระภาคเจ้า
อยู่เมืองคิริพชะ ใกล้กรุงราชคฤห์นี้แหละ ณ ที่นั้นแล ข้าพระองค์
ได้สดับรับฟังเฉพาะพระพักตร์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ดูก่อน
สัชฌะ ภิกษุผู้เป็นพระอรหันต์ขีณาสพ อยู่จบพรหมจรรย์ ทำกิจ
ที่ควรทำเสร็จแล้ว ปลงภาระแล้ว มีประโยชน์แห่งตนอันบรรลุแล้ว
โดยลำดับ มีกิเลสเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพสิ้นรอบแล้ว หลุดพ้น
แล้วเพราะรู้โดยชอบ ภิกษุนั้นเป็นผู้ไม่ควรเพื่อประพฤติล่วงฐานะ
5 ประการ คือ ภิกษุผู้ขีณาสพไม่ควรแกล้งฆ่าสัตว์ 1 ไม่ควรถือ
เอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ให้อันเป็นส่วนแห่งความเป็นขโมย 1 ไม่
ควรเสพเมถุนธรรม 1 ไม่ควรกล่าวเท็จทั้งรู้ 1 ไม่ควรทำการ
สั่งสมบริโภคกามคุณเหมือนเป็นคฤหัสถ์ในกาลก่อน 1 ข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ คำนี้ข้าพระองค์ฟังมาดีแล้ว รับมาดีแล้ว ใส่ใจไว้ดีแล้ว
ทรงจำไว้ดีแล้วแลหรือ.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า จริงละ คำนี้ท่านฟังมาดีแล้ว
รับมาดีแล้ว ใส่ใจไว้ดีแล้ว ทรงจำไว้ดีแล้ว ครั้งก่อนและบัดนี้
เราก็กล่าวอย่างนี้ว่า ภิกษุใดเป็นพระอรหันต์ขีณาสพ อยู่จบพรหม
จรรย์... หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ ภิกษุนั้นเป็นผู้ที่ไม่ควรเพื่อ
ประพฤติล่วงฐานะ 9 ประการ คือ ภิกษุผู้ขีณาสพไม่ควรแกล้ง
ฆ่าสัตว์ ฯลฯ ไม่ควรกล่าวคือพระพุทธเจ้า ไม่ควรกล่าวคืน
พระธรรม ไม่ควรกล่าวคืนพระสงฆ์ ไม่ควรกล่าวคืนสิกขา ดูก่อน
สัชฌะ ครั้งก่อนและบัดนี้เราก็กล่าวอย่างนี้ว่า ภิกษุใดเป็นพระ-
อรหันตขีณาสพ อยู่จบพรหมจรรย์ ทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว ปลง
ภาระแล้วมีประโยชน์แห่งตนอันบรรลุแล้วโดยลำดับ มีกิเลสเครื่อง
ประกอบสัตว์ไว้ในภพสิ้นรอบแล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ
ภิกษุนั้นเป็นผู้ไม่ควรเพื่อประพฤติล่วงฐานะ 9 ประการนี้.
จบ อัชฌสูตรที่ 8

อรรถกถาสัชฌสูตรที่ 8


ในสัชฌสูตรที่ 8 ท่านกล่าวจำเพาะพระพุทธเจ้าเป็นต้น.
จบ อรรถกถาสัชฌสูตรที่ 8